หากยังจำกันได้ เมื่อปี 2012 โลกแห่งเกมเมอร์ได้ประจักษ์กับการกลับมาของเกมวางแผน Turn-Based ในตำนานฝีมือทีมสร้าง Sid Meier’s Civilization. ‘XCOM: Enemy Unknown’ ที่แม้คนไทยนั้นจะมีน้อยคนนักที่รู้จักในตอนนั้นว่ามีต้นกำเนิดอย่างไร แต่ในต่างประเทศนั้นมันคือหนึ่งในเกมวางแผนที่มีคนรอคอยมากที่สุด และถึงแม้มันอาจจะไม่ได้เหมือน UFO: Enemy Unknown แต่ดีไซน์เกมเพลย์ที่ยากแต่ก็ยังเรียนรู้ง่ายทำให้ ‘XCOM: Enemy Unknown’ กลายเป็นเกมฆ่าเอเลี่ยนที่รู้จักไปทั่วสารทิศว่าเป็นเกมวางแผน Turn-Based ที่ดีที่สุดในปัจจุบัน รวมถึงตัวผมด้วยเช่นกันที่ทุกวันนี้ก็ยังเล่น XCOM: EU อยู่ ก็ไม่ต้องแปลกใจเลยว่าทำไมผมถึงตื่นเต้นสุดๆเมื่อทราบว่า Firaxis กำลังพัฒนา XCOM 2 อยู่ วันนี้หลังจากได้เล่นไปแล้วรวมๆกว่า 30 ชั่วโมงผมคิดว่าผมพร้อมที่จะมาบรรยายแล้วล่ะว่าภาคนี้ยังสุดยอดเหมือนภาคแรกหรือไม่
XCOM 2 เป็นเกมวางแผนแบบ Turn-Based ผสมผสานกับเกมเพลย์แนวบริหารฐาน Base Management พัฒนาโดย Firaxis และจัดจำหน่ายโดย 2K Games ในภาคนี้จะมิได้ต่อกับภาค Enemy Unknown แต่อย่างใด แต่เป็นเหมือน What If มากกว่า โดยในภาคนี้กองกำลัง XCOM นั้นได้พ่ายแพ้ให้กับเหล่าเอเลี่ยนทั้งที่ยังไม่ทันได้วิจัยอาวุธเลเซอร์เลยด้วยซ้ำ เราไม่เคยไปได้ไกลถึงระดับบุกระเบิดฐานเอเลี่ยนหรือเผชิญหน้า Ethereal แม่ทัพเอเลี่ยนใน XCOM : EU เลย ข้ามมา 20 ปีต่อมา เอเลี่ยนเข้ายึดครองทุกอย่างบนโลกใบนี้ ทำให้ Central Officer Bradford บุกมาช่วยตัวเราและก่อตั้ง XCOM ใหม่ขึ้นเพื่อต่อต้านเหล่าเอเลี่ยนและกู้โลกที่เป็นของมนุษย์มาก่อนกลับคืนมา
ในภาคนี้ก็ตามที่ Firaxis ได้เผยไว้ก่อนหน้านี้ล่ะครับว่าภาคนี้จะเน้นในส่วนของเนื้อเรื่องมากขึ้น ซึ่งก็ได้เน้นมากขึ้นจริงๆ เปิดมาก็มีภารกิจเนื้อเรื่องอะไรให้ทำเยอะแยะไปหมด โดยรวมแล้วก็ปรับปรุงขึ้นมากจากภาคแรก ฉาก Cutscene ก็มีจำนวนเยอะขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ถึงอย่างงั้นก็อย่าลืมว่านี่คือ XCOM จุดเด่นของมันมิใช่เนื้อเรื่อง ถึงกระนั้นถ้าคุณสนใจเนื้อเรื่องที่ว่าเราคือผู้ก่อการร้ายต่อต้านเอเลี่ยนรับรองจะชอบจนหลงเลยล่ะ
ขอเน้นในด้านเกมเพลย์ดีกว่าก็แล้วกันเนอะ เกมเพลย์ต่อสู้วางแผนในภาคนี้นั้นได้ทำเป็นแบบ Fast-Paced ขึ้นมาก ลืมไปได้แล้วทริค Turtling หรือการ ‘เดินช่องฟ้า ส่งคนนึงไปล่อแล้วที่เหลือ Overwatch’ นั่นไม่ใช่ Tactic หรือการวางแผน ในภาคนี้แทบทุกภารกิจจะมีเวลาจำกัดอยู่แก้ทางพวกที่เล่น Turtling ทำให้ผู้เล่นจะต้องรวดเร็วตลอดเวลา บุก ปรับแผนตามสถานการณ์ ทำภารกิจ แล้วหนี นี่มิใช่เกมปกป้องโลกแบบภาคแรกที่มนุษย์จะเอื่อยอ่ายยังไงก็ได้ เดินชิลๆ ยิงเอเลี่ยน แต่นี่คื่อเกมกอบกู้โลก เราไม่ได้มีเวลาตลอด เรายังมีอะไรต้องทำอีกเยอะแยะ โดยส่วนตัวแล้วคิดว่า Firaxis ออกแบบเกมเพลย์ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นพวกต่อต้านหรือผู้ก่อการร้ายได้เพอร์เฟ็คมาก
ถึงกระนั้นด้านเกมเพลย์บริหารฐานนั้นออกจะผิดหวังเล็กน้อย เพราะมันซับซ้อนน้อยกว่าเดิมเยอะ ระบบ Air Interception ส่งยานบินไปไล่ถล่มยานเอเลี่ยนถูกตัดออกที่แม้จะทำให้เกม Make Sense ขึ้นแต่ก็ยอมรับว่าแอบคิดถึงเหมือนกัน ส่วนการบริหารฐานก็ไม่ต้องมานั่งพะวงแล้วว่าจะมีไอน้ำให้เราได้สร้างเครื่องปั่นไฟ Eleriam ไหม สิ่งเดียวที่ต้องพะวงก็มีแค่ว่าจะสร้างอะไรก่อนดีแค่นั้น แถมถูกตัดเหลือเพียง 12 ช่องเท่านั้นทำให้เกมรู้สึกสั้นลง ด้าน Research ค้นคว้าวิจัยก็ไม่ดูพัฒนาเท่าไหร่ บางครั้งก็รู้สึกเหมือนแค่ Reskin ระบบวิจัยจากภาคแรกยังไงไม่รู้ แต่ด้าน Engineering นี่ถือว่ามีการพัฒนาเพราะในภาคนี้เราสามารถมอบหมายงานให้ Engineer ของเราไปประจำสิ่งก่อสร้างต่างๆได้ แถมทุกชุดเกราะและอาวุธก็เป็นแบบซื้อครั้งเดียวอัพทั้งทีม ไม่ต้องมานั่งเปลืองแยกชนชั้นกันอีก
มาดูด้านกองทัพของเรากันบ้าง ในภาคนี้ทหารนั้นจะมี 5 Class ด้วยกันคือ Ranger ที่มาแทน Assault ที่แม้จะใช้ Shotgun เหมือนเดิมแต่รอบนี้พี่แกติดอาวุธประชิดอย่างมีดสปาต้ามาด้วยซึ่งสามารถสร้างความเสียหายได้มหาศาลหากใช้ในจังหวะที่ถูกต้อง, Granedier มืออาวุธหนักที่มาแทน Heavy มาพร้อมกันปืนกลที่เรียกได้ว่าหนักของจริงและปืนยิงระเบิดที่มอบรัศมีระเบิดได้กว้างและไกลขึ้นมากกว่าการขว้างธรรมดา, Sharpshooter พลซุ่มยิงที่มาแทน Sniper แน่นอนว่ายังคงใช้ปืนซุ่มยิงพลังทำลายล้างสูง แต่รอบนี้มีฝึกพิเศษเก่งการใช้ปืนพกด้วยทำให้สามารถรับมือได้ทั้งระยะใกล้และไกล ส่วน Specialist คือหน่วย Support ที่ดูจะมีประโยชน์มากกว่าภาคก่อนมากยิ่งขึ้นไปอีกด้วย Gremlin โดรนที่เรียกได้ว่านี่มันเบ๊ชัดๆ ที่สามารถทำได้แทบทุกอย่าง แฮค ฮีล สแกน หรือแม้แต่ปกป้องเพื่อนร่วมทีม และ Psi ที่แยกมาเป็นของตัวเอง ก็ตามชื่อเลยว่าพี่แกคือหน่วยที่เน้นการใช้พลังสะกดจิต Psionic โดยเฉพาะ อาจมิได้สร้างความเสียหายทางกายแต่เชื่อเถอะว่าด้านจิตเวชนั้นพี่แกคือฝันร้ายของจริง ทุกหน่วยถูกอัพเกรดความสามารถให้ดูมีปประโยชน์พอๆกันทุกหน่วย ไม่มีหน่วยไหนด้อยหน้าเลยทีเดียว นับว่าเป็นสิ่งที่ดีที่ Firaxis ยังคงเกมเพลย์ความสมดุลได้สำเร็จ
นอกจากนี้ก็ยังมีระบบที่พัฒนาเพิ่มขึ้นมาอีกหลายอย่างเลยล่ะ ระบบ Personal Combat Sim ที่แม้จะไม่ได้เห็นผลด้วยทางตาแต่ก็ช่วยทหารได้มากภายในเกม ระบบปรับแต่งอาวุธที่อาจจะไม่ได้ว้าวนักแต่ก็ถือว่าเป็นส่วนเสริมที่น่าตื่นตาเหมือนกัน และระบบ Customization ที่ทำได้ละเอียดกว่าเดิมมีทั้งเปลี่ยนลายและสีอาวุธ เกราะ ยันรอยสักและแผลเป็น ดีซะจนภาคก่อนนี่เหมือนเกมแฟลชแต่งตัวตาม Y8 ไปเลย ด้านไอเทมเสริมนั้นก็ดูมีประโยชน์และมีความหลากหลายมากกว่าภาคก่อนอาทิระเบิดสารพิษสุดโกงที่ทำให้ระเบิดควันพิษภาคแรกเหมือนตุ๊กตาเด็กห้าขวบ หรือเกราะ Nanosuit ที่พัฒนาให้ทนไฟทนระเบิดได้มากกว่าที่เคยด้วย แถมยังทำให้ดูน่าใช้ขึ้นเยอะจนแม้แต่สิ่งที่ไม่น่าจะมีประโยชน์เลยเช่นระเบิดควันหรือระเบิดแสงกลายเป็นของสำคัญที่ต้องติดตัวไว้ทุกตา รวมไปถึงประเภทกระสุนที่มีเยอะขึ้นอาทิกระสุน Bluescreen ที่เอาไว้ยิงศัตรูประเภทหุ่นยนต์โดยเฉพาะทำให้ XCOM 2 หลากหลายกว่าที่เคยมีมามากๆเลยทีเดียว
แน่นอนว่ามิใช่เพียงฝั่งมนุษย์เท่านั้นที่มีการพัฒนา เหล่าเอเลี่ยนก็มีการพัฒนาเช่นกัน ตั้งแต่หน้าเก่าๆอย่าง Sectoid ที่เอาไปหยอด DNA มนุษย์จนเปลี่ยนจากเอเลี่ยนตัวจิ๋วน่ารักๆ เป็นหัวกระโหลกเดินได้ แถมบ้าพลังจิตมนต์ดำชอบปลุกเพื่อนที่ตายแล้วมาเป็นซอมบี้อีก, Viper ที่แต่ก่อนคือ Thin Man แต่เมื่อยึดโลกได้แล้วก็เลยกลับมาร่างเดิมพร้อมกับลิ้นยาวๆ ที่สามารถดึงตัวเอามาใกล้ๆแล้วเข้ารัดตัวเราจนกว่าจะตายได้ ยันหน้าใหม่ๆสุดโหดอาทิ Codex สมองข้อมูลเดินได้ที่ไม่ชอบเดินแต่ชอบวาร์ปและก๊อปปี้ตัวเองพร้อมความแม่นที่บางทีก็ชวนคิดว่ามาเป็นตัวเอกเลยดีไหม ทำเอากองทัพ XCOM เป็น Storm Trooper ไปเลย ทุกตัวนั้นได้มีการพัฒนาทั้งด้านเลือด และความสามารถ ทำให้ยากกว่าที่เคย แถม AI ภาคนี้ก็ได้รับการพัฒนาขึ้นเยอะ ไม่สามารถคาดเดาได้ว่ามันจะทำอะไร เรียนรู้ที่จะใช้จุดกำบังมิดชิด และ Flank เราเมื่อมีโอกาสทำให้เกมท้าทายกว่าที่เคยมีมา
ด้านแผนที่ Geoscope ก็มีการพัฒนา ไม่ต้องห่วงอีกต่อไปแล้วเรื่องที่ว่าจะมี Council คนไหนถอนตัวในเดือนหน้าไหมหนอ สองสิ่งที่คุณต้องห่วงก็มีแค่ระบบ Avatar Project ที่เปรียบเสมือนค่าความชนะของเอเลี่ยนที่จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆทุกเดือนและทันทีที่มันเสร็จเกมจะจบทันที และ Dark Event ที่เป็นเหมือนแผนของเหล่าเอเลี่ยนที่จะใช้ต่อต้าน XCOM เท่านั้น
Dark Event นั้นมีหลากหลายแบบอาทิเพิ่มความเร็วให้กับ Avatar Project หรือส่งยานบินมาล่า XCOM วิธีต่อต้านคือการทำภารกิจ Guerilla Ops เป็นหลัก แน่นอนว่าเราไม่สามารถหยุดDark Event ได้ทุกอันดังนั้นตัดสินใจให้ดีๆล่ะ ส่วน Avatar Project สามารถต่อต้านได้ด้วยการทำภารกิจเนื้อเรื่องและถล่มโรงงานเอเลี่ยนเป็นหลักครับ นอกจากนี้แล้ว ด้วยความที่เราคือฐานทัพเคลื่อนที่ ทำให้เราสามารถเดินทางไปไหนก็ได้ทั่วโลก ตามหาทรัพยากรที่เรี่ยราดตามทวีปต่างๆ หรือค้าขายกับตลาดมืดแลกข้อมูลกับสิ่งที่ต้องการก็ทำได้
มาดูด้านข้อเสียกันบ้าง นอกจากปัญหาทางเทคนิคอาทิ Frame Rate ร่วงระนาวทั้งที่ภาพของเกมไม่ได้หนักขนาดนั้นที่สามารถแก้ปัญหาได้ด้วยการปิด AO,DOF และ AA กับปัญหาดีเลย์แต่ละตาแล้วนั้นก็เห็นจะเป็นการจำกัดเวลาของแต่ละภารกิจกับ Avatar Project ที่คิดว่าน้อยเกินไปแล้วนั้น ก็เห็นว่าจะเป็นในส่วนของความยากของส่วนวางแผนของเกม เนื่องจากเหล่าเอเลี่ยนนั้นปล่อยของดีออกมาเร็วมากทำให้ถ้าเรามัวเอื่อยอ่ายไม่รีบวิจัยอาวุธเกราะก่อนก็ได้มีนั่งเศร้ายาวๆเล่นใหม่ล่ะ กับด้านการบริหารฐานที่ดูจะถูกลดความสำคัญลงเยอะจนเหมือนมีไว้เพื่อให้มีอย่างไรไม่รู้เท่านี้ล่ะ ปัญหาเหล่านี้แน่นอนว่าเกือบจะถูกแก้ไปหมดแล้วด้วยพลังแห่ง Mod คิดว่าเกมช้าไปหน่อย ดีเลย์บ้าบอไรเยอะแยะฟระงั้นเหรอ ใช้ Stop Wasting My Time อยากได้ Cosmetic มงหมวกเพิ่ม? Capnbubs Accessories Pack โอ้ยเสียเวลามานั่ง Evac ทีละคนอยากให้ออกๆไปให้หมดทีเดียว? Evac All รำคาญเวลา Avatar Project และในภารกิจ Guerilla Ops? TimerTweak และ Avatar Project เรียกได้ว่า Modder แก้ให้เกลี้ยงจนสิ่งเดียวที่ Firaxis ต้องทำคือแก้ไขปัญหาทางเทคนิคของเกมเท่านั้นเอง
สรุปเลยก็แล้วกันใครที่เล่น Impossible จนชนะแล้วคิดว่า XCOM 2 คงไม่ยากห่างๆกันเท่าไหร่แล้วเล่นในระดับยากสุดเลย ผมอยากจะให้คิดใหม่อย่างยิ่ง นี่ไม่ใช่ XCOM ที่คุณรู้จักในภาคก่อนๆ ไม่ใช่ XCOM ที่ต้องการให้คุณค่อยๆบุกหรือไล่ยิงเอเลี่ยนให้หมดจนกว่าจะไม่เหลืออะไรให้ยิง นี่คือ XCOM ที่คุณยิงเมื่อจำเป็น และหนีได้เมื่อมีโอกาส นี่คือ XCOM ที่ทหารของคุณไม่ใช่ลูกหลาน แต่เป็นสิ่งที่สามารถสูญเสียได้ การตายของทหารคุณมิใช่จุดจบของเกมนี้ แต่มันคือก้าวต่อไปต่างหาก นับตั้งแต่นี้ไปผมจะไม่ขอให้คะแนนรีวิวเกมอีกแต่จะให้นิยามแทนซึ่งผมขอให้นิยามแบบเดียวกับ PC GAMER เลยละกันว่ามันคือเกมวางแผนที่สามารถ ‘เล่นได้ตลอดชาติ (หรือจนกว่าจะมีภาคต่อ) ของแท้’
สามารถซื้อใน Steam ได้ในสนนราคา 1499 บาท ขอทิ้ง Tip & Trick เล็กน้อยจากประสบการณ์ครับ เห็นด้วยไม่เห็นด้วยอะไรยังไงมาคุยกันได้
- อัพเกราะก่อนอาวุธ : อาวุธทำให้คุณฆ่าเอเลี่ยนไวขึ้น แต่เกราะนอกจากจะทำให้คุณอึดแล้วยังเปิดช่องเก็บของอันที่ 2 ด้วยนะเออ
- เน้น Making Contact ไว้ก่อน : ตัวเกมจะแนะนำระบบติดต่อกับประเทศอื่นเอาไว้ จะเป็นการดีมากหากเรารีบติดต่อให้เร็วที่สุดจนกว่าจะเต็มจำนวนช่องการติดต่อ เพราะจะทำให้เราได้ Supply มาจับจ่ายใช้สอยเร็วขึ้น
- Advance Warfare Combat ควรสร้างเมื่อมีโอกาส : แม้มันจะไม่ควรสร้างในช่วงต้นเกม แต่เมื่อช่วงกลางเกมเป็นต้นมานี่คือสิ่งที่จำเป็นที่สุด เพราะมันจะทำให้ทหารเรารักษาพยาบาลได้ไงขึ้น
- Squad Size มาก่อน : ถ้าเรามี Guerrilla Warfare School แล้วและต้องการจะซื้อ Combat Tactic คุณควรซื้อ Squad Size มาก่อนเลย เพราะภาคนี้จำนวนเอเลี่ยนที่เราจะได้เจอนั้นมันเยอะมากมายเสียเหลือเกินแบบที่ว่าแค่เริ่มตาแรกเจอเอเลี่ยน 18 ตัวก็กลายเป็นเรื่องธรรมดาได้เลยทีเดียว
- อย่าคิดว่าตัวเองคือนักวางแผนขั้นเทพแล้วคิดว่าจะไหว : อย่ามีความคิดแบบว่า ‘เหอะ ฉันเล่นภาคแรก Long War Impossible จบมาแล้ว กะอีแค่ XCOM 2 หมูๆ เริ่มแบบ Legend + Ironman เลยดีกว่า’ กับเกมนี้เด็ดขาด อย่างที่บอกนี่ไม่ใช่ XCOM ที่คุณรู้จัก มันจะยาก ทารุณ โหดร้ายในแบบที่คุณไม่เคยสัมผัสมาก่อน ด้วยระยะเวลาอันจำกัดและเหล่าเอเลี่ยนจัดเต็มที่ถ้าไม่ลง Mod แก้มันก็นรกดีๆนี่เอง ดังนั้นไม่น่าอายหรอกถ้าคุณจะเล่นเพียงระดับ Veteran หรือ Normal ในขณะที่คนอื่นเล่นระดับ Commander ที่เทียบเท่ากับ Classic ในภาคแรก เพราะคุณจะประทับใจไปในตัวเกมมากกว่าพวกที่คิดว่าแน่แล้วเล่นความยาก Commander เลยในตาแรกอย่างแน่นอน
- อย่ารีบเล่นเนื้อเรื่อง : ถ้าหากคุณมี Skulljack แล้วหรืออยากจะบุก Blacksite แต่อาวุธที่ใช้ยังเป็นอาวุธเริ่มต้นเกราะธรรมดาอยู่ อย่า! ผมเตือนคุณผู้อ่านแล้วนะว่าอย่า! ดำเนินเนื้อเรื่องต่อเด็ดขาดจนกว่าคุณจะพร้อมมากกว่านี้ เพราะถ้ารีบใช้ Skulljack คุณจะได้พบกับเจ้า Codex ซึ่งในตอนต้นเกมนั้นไอพวกนี้มันยิ่งกว่าเทพซะอีก มันจะฉีกคุณผู้อ่านและทหารของคุณเป็นชิ้นๆแน่นอนด้วยพลังวาร์ปมา Flank แล้วยิงซ้ำด้วยความแม่นขั้นเทพจนสไนเปอร์ยังผยอง ดังนั้นอย่างน้อยต้องมีอาวุธและเกราะขั้นสองพร้อมทหารเก่งๆ ยศ Major หลายๆคนก่อนค่อยเล่นเนื้อเรื่องต่อ เพราะไม่งั้นเกมจะข้ามระดับไปอย่างรวดเร็วจนคุณไม่สามารถเล่นต่อไปได้เลยทีเดียว
- หัดใช้ไอเทมเสริมให้ชิน : ในภาคก่อนคุณอาจจะเอาไปแต่ปืนแล้วเอาแต่ไล่ยิงอย่างเดียวก็ชนะได้เพราะไอเทมที่จำเป็นจริงๆ ก็คือที่ฮีลเลือดและระเบิดมือแค่นั้นเอง แต่ในภาคนี้แนะนำว่ามีอะไรเอาไปให้หมดครับได้ใช้แน่นอน ตั้งแต่ระเบิดแสงที่เอาไว้หยุด Overwatch, หยุด Viper ไม่ให้รัดคอเพื่อนเราต่อ หรือแม้แต่หยุดพลังสะกดจิตที่เปิดมาเริ่มเกมก็สามารถเจอ Sectoid ใช้ Mind-Control ใส่ได้แล้ว, ระเบิด EMP ที่หยุดการทำงานของศัตรูประเภทหุ่นยนต์และป้อมปืนซึ่งจำเป็นมากเพราะทั้งอึดแถมยิงแรงให้มันอยู่นิ่งเอ๋อๆ น่ะดีแล้ว หรือแม้แต่ระเบิดสารพิษที่แรงเสียเหลือเกินปาดีๆฆ่าเอเลี่ยนได้ยกทีม เป็นการเพิ่มความสำคัญของไอเทมในเกมได้ดีมากๆ เลยทีเดียว
- อย่า Stealth : นี่คือเกมวางแผน ไม่ใช่เกมลอบเร้น เจอศัตรูกลุ่มแรกอย่าพยายามหนีมัน แต่ให้พยายามหาจุดเพื่อลอบโจมตี Ambush มันไปเลยจะดีกว่าเพราะถ้าเราถูกพบตัวระหว่าง Stealth แปปเดียวคุณจะถูกล้อม และทุกอย่างจะเป็นดั่งหายนะแน่ ตั้งให้คนนึงที่คิดว่าน่าจะยิงโดนแน่นอน ส่วนที่เหลือเปิด Overwatch ไปเลยดูจะเป็นแผนกว่าเยอะครับ
ภารกิจสำเร็จแต่สูญเสียไปเยอะก็จะได้เห็นทหารเราจิตตกเยี่ยงนี้แล
นี่หนักกว่า ไป 6 กลับ 0
สรุปว่าแค่ปากเหมือนคน แต่ไม่ใช่คนนะครับ…
This is a short description in the author block about the author. You edit it by entering text in the "Biographical Info" field in the user admin panel.
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น